User Guide ตัวนี้จะเป็นแบบอัพเดทเนื้อหาไปเรื่อยๆ นะครับซึ่งจะมีวิธีการใช้งานต่างๆ ตามมาภายหลัง โดยช่วงแรกจะเป็นวิธีการติดตั้งเบื้องต้นก่อนครับ ซึ่งมีหัวข้ออยู่ตามนี้
1. การติดตั้ง Mac OS X Lion
2. Lion Recovery Partition
3. การสร้าง Installation DVD หรือ USB Install Drive
1. การติดตั้ง Mac OS X Lion
1.1. เครื่องเราใช้ Lion ได้หรือเปล่า?
ขั้นแรกก่อนที่จะติดตั้งต้องทำการเช็คเครื่องดูก่อนครับว่าเราสามารถใช้งาน Lion ได้รึเปล่า โดยเงื่อไขของ Mac ที่สามารถใช้งาน Lion ได้ก็คือ
o ต้องเป็น Mac ที่ใช้ Intel Core 2 Duo, Core i3, Core i5, Core i7, หรือ Xeon processor
o RAM ขั้นต่ำ 2GB (แต่ผมแนะนำ 4GB หรือ 8GB ไปเลยจะดีกว่า)
o OS X เวอร์ชั่น 10.6.6 ขึ้นไป
o พื้นที่ว่างใน Harddisk ประมาณ 7GB
1.2 ดาวน์โหลด Lion จาก Mac App Store
ให้เราเปิด Mac App Store ขึ้นมาและเลือกไปยัง Lion และทำการซื้อโดยเราจะเสียเงิน $29.99 (ในขั้นตอนนี้หากใครที่ยังไม่เคยลง Lion แต่ขึ้นว่า Installed ให้กด option ค้างใว้แล้วค่อยทำการคลิกสั่งซื้อ)
จากนั้นระบบจะเริ่มทำการดาวน์โหลดไฟล์ขนาดประมาณ 3.5GB ซึ่งตอนนี้ก็ทำอะไรเช่น Backup ข้อมูลรอไปก่อนก็ได้เพราะใช้เวลาดาวน์โหลดค่อนข้างจะนานอยู่เหมือนกัน
การติดตั้ง Lion นั้นสามารถทำได้บน Mac ได้มากกว่าหนึ่งเครื่อง นั่นหมายความว่าถ้าคุณมี Mac มากกว่า 1 เครื่อง แต่ใช้ Apple ID ตัวเดียวกัน คุณก็สามารถ Sign-in เข้าไปใน Mac App Store ด้วย Apple ID ที่ซื้อ Lion มาแล้ว และทำการ Install Lion ได้เลยโดยไม่ต้องซื้ออีกรอบ
1.3 เริ่มต้นการติดตั้ง
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีหน้าต่างพร้อมติดตั้งขึ้นมาโดยอัตโนมัติ โดยก่อนจะเริ่มขั้นตอนต่อไปแนะนำว่าให้ก็อปปี้ไฟล์ชื่อ Install Mac OS X Lion.app ที่อยู่ในโฟลเดอร์ Application เก็บใว้ก่อน เพราะตอนลง Lion เสร็จระบบจะลบไฟล์ดังกล่าวทิ้งซึ่งทำให้หากเราจะทำการ Reinstall จะต้องดาวน์โหลดใหม่หรือใช้วิธีอื่นๆ อย่าง Lion Recovery แทน ดังนั้นก็อปปี้เก็บใว้ก่อนสบายใจกว่าจากนั้นจะผ่านมายังหน้าจอของ Software License Agreement ให้เรา Agree ไป จากนั้นจะเข้าสู่หน้าจอเลือก Drive ซึ่งโดยปรกติแล้วเราก็มักจะมีอยู่ Drive เดียว หรือหากมีมากกว่าหนึ่ง Drive ให้เราเลือก Drive ที่มี Snow Leopard ติดตั้งอยู่ โดยเมนู Show All Disk… จะใว้ใช้สำหรับการลง Lion แบบเต็มๆ ไม่ได้อัพเกรดซึ่งตามปรกติเราจะลงแบบอัพเกรดจาก Snow Leopard กันดังนั้นก็กด Continue ได้เลย
ระบบจะทำการเตรียมความพร้อมสำหรับการอัพเกรดเป็น Lion และเตรียมที่จะ Restart ตัวเองในอีกไม่กี่วินาทีต่อจากนี้ให้เรารอจนเครื่องรีสตาร์ท
เมื่อเครื่องทำการรีสตาร์ทเองแล้ว ระบบจะเริ่มการติดตั้งเองอัตโนมัติ ซึ่งจะนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่ความแรงของ Mac ที่ใช้อยู่ โดย iMac ของผม Core 2 Duo 3.06GHz RAM 6GB ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในขั้นตอนนี้
เท่านี้ก็เสร็จขั้นตอนการติดตั้ง Lion แล้ว จะเห็นว่าไม่ยากเลยสำหรับการอัพเกรดจาก Snow Leopard 10.6 ไปเป็น Lion 10.7
1.4 ปัญหาที่พบบ่อยตอนกำลังทำการติดตั้ง
1.4.1 ไม่สามารถติดตั้งได้เพราะเจอข้อความ This disk cannot be used to start up your computer ในหน้าเลือก Driveปัญหานี้ทาง Apple ได้ออกมาเสนอวิธีแก้ไขสองแบบด้วยกัน โดยแบบแรกคือตัดปัญหาทุกอย่างด้วยการ Backup ไฟล์ก่อนแล้ว Format Harddisk เพื่อลงใหม่ไปเลยจะชัวร์ที่สุด แต่หากไม่ต้องการทำแบบนั้นพอจะมีอีกวิธีที่น่าจะพอช่วยได้อยู่ด้วยวิธี Resize Partition นั่นเอง ซึ่งมีวิธีดังนี้
1. Restart เครื่องก่อนแล้วเปิด Disk Utility ขึ้นมา (อยู่ในโฟลเดอร์ Applications/Utilities/)
2. ที่แถบด้านซ้ายคลิกเลือก Drive ที่คุณต้องการจะติดตั้ง Lion
3. เลือกที่แท็บ Partition
4. ที่มุมขวาล่างเราจะเห็นส่วนที่ให้ลากเพื่อเปลี่ยนขนาดของ Partition อยู่ให้เราทำการลากเพื่อให้ Drive ที่เราจะลง Lion มีขนาดเล็กลงประมาณ 128MB (เดาๆ เอาไม่ต้องเป๊ะมาก) ด้วยการขยับขึ้นไปด้านบนหน่อยๆ ดังภาพ (ส่วนสีฟ้าคือพื้นที่ที่ใช้ไปแล้วและสีขาวคือที่ยังว่างอยู่ – พยายามอย่าให้ส่วนของสีขาวน้อยกว่าสีฟ้า)
5. จากนั้นกด Apply
6. จากนั้นให้ทดลองติดตั้ง Lion ใหม่อีกครั้ง และเมื่อติดตั้งเสร็จแล้วก็สามารถ Resize กลับมาให้เท่าเดิมได้ด้วย
2. Lion Recovery Partition
ใน Lion จะมีระบบที่เรียกว่า Lion Recovery ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดเก็บไฟล์สำหรับการติดตั้ง Lion ใว้ในเครื่องและสามารถเข้าถึงส่วนนั้นเพื่อทำการติดตั้ง Lion ใหม่ได้ทุกเมื่อ ทำให้เราไม่เสียเวลาดาวน์โหลดมาติดตั้งใหม่หรือไม่จำเป็นต้องใช้แผ่น DVD เหมือนแต่ก่อนแล้ว
เมื่อเราต้องการที่ติดตั้ง Lion ใหม่อีกครั้ง หรือแม้แต่การติดตั้งแบบ Clean Installation ซึ่งเป็นการติดตั้ง Lion ใหม่ทั้งหมดแบบ Fresh Copy ไม่ได้เป็นการอัพเกรดจาก Snow Leopard ก็ทำได้ด้วยระบบนี้
การเข้าใช้งาน Lion Recovery ทำได้ไม่ยากโดยให้เราทำการ Restart เครื่องแล้วกดปุ่ม option ค้างใว้ หน้าจอจะทำการโหลด Drive ต่างๆ ที่มีในเครื่องและเราจะเห็น Recovery HD ให้เราทำการเลือกตรงนี้ด้วยการกด Enter
ด้านในก็จะมีเมนูต่างๆ ให้เราได้เลือกไล่ตั้งแต่การ Restore จากข้อมูลที่เรา Backup ใว้ใน Time Machine หรือจะทำการ Reinstall Lion ใหม่ก็ทำได้จากตรงนี้กันตามสะดวก
3. การสร้าง Installation DVD หรือ USB Install Drive
สำหรับคนที่ต้องการจะสร้าง Installation DVD หรือ USB Install Drive สำหรับใช้เก็บสำรองใว้ในวันใดวันหนึ่งที่ Lion Recovery ไม่สามารถใช้งานได้ เราก็สามารถทำได้เช่นกันโดยมีขั้นตอนไม่ยุ่งยากเท่าไหร่3.1 คุณต้องมีไฟล์ Install Mac OS X Lion.app
อย่างที่เราบอกใว้ในขั้นตอน 1.3 ว่าให้ทำการก็อปปี้ไฟล์ “Install Mac OS X Lion.app” ที่อยู่ในโฟลเดอร์ Applications เก็บใว้ก่อน ซึ่งเราจะต้องใช้ไฟล์นี้แหละครับในการทำ DVD หรือ USB Drive หากไม่มีให้เปิด Mac App Store ขึ้นมา กดปุ่ม option ค้างใว้พร้อมกดดาวน์โหลด Lion อีกครั้ง 3.2 เปิดหาไฟล์ InstallESD.dmg ให้เจอ
ให้คุณทำการคลิกขวาที่ไฟล์ “Install Mac OS X Lion.app” แล้วเลือก “Show Package Contents” จากนั้นเราจะเจอโฟลเดอร์ Contents ให้เข้าไปข้างในจะเจอโฟลเดอร์อีกมายมาย ให้มองหาโฟลเดอร์ SharedSupport แล้วเปิดเข้าไป ในนั้นจะมีไฟล์ที่ชื่อ “InstallESD.dmg” อยู่ ให้เราทำการก็อปปี้มาเก็บใว้ข้างนอกซะ เพราะเราจะใช้ไฟล์นี้แหละครับในการสร้าง Installation DVD หรือ USB Install Drive ต่อไป
3.2.1 การสร้าง Installation DVDขั้นแรกให้ทำการเปิด Disk Utility ขึ้นมาก่อน (อยู่ใน Application/Utilities/ ) แล้วทำการใส่แผ่น DVD เปล่าเข้าไปในเครื่อง แล้วคลิกเลือกที่แผ่น DVD นั้นตรงด้านซ้ายของเมนูบาร์
จากนั้นให้กดปุ่ม Burn ที่ด้านบน จะมีหน้าต่างขึ้นมา ให้เราทำการเลือกไปที่ไฟล์ “InstallESD.dmg” ที่เราได้ทำการก็อปปี้มาเก็บใว้แล้ว และกดปุ่ม Burn ได้เลย เท่านี้เราก็จะได้ Installation DVD เก็บใว้ใช้งานในภายภาคหน้าแล้ว
3.2.2 การสร้าง USB Install Drive
วิธีนี้สำหรับผู้ที่มี USB Drive และอยากเปลี่ยนให้เป็น USB Install Drive โดยไม่ต้องไปซื้อจาก Apple ที่จะทำมาขายแยกต่างหากทีหลัง โดยขั้นแรกเราต้องมี USB Drive ความจุประมาณ 4-6GB ขึ้นไป ให้ทำการเสียบเข้าที่ตัวเครื่องให้เรียบร้อย
เปิด Disk Utility ขึ้นมาเหมือนเดิมและเลือก USB Drive นั้นๆ จากเมนูด้านซ้าย และเลือกที่แท็บ “Erase” ตรงฝั่งขวา ดูให้แน่ใจว่าตรง Format เป็น “Mac OS Extended (Journaled)” แล้ว จากนั้นคลิก Erase… (ตรง Name จะเปลี่ยนชื่อหรือไม่เปลี่ยนก็ได้) ขั้นตอนนี้จะเป็นการเตรียมความพร้อมของ USB Drive ของเรา
จากนั้นให้คลิกขวาที่ USB Drive แล้วเลือก “Restore” จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมา ตรง Source ให้เรากดที่ปุ่ม “Image…” แล้วเลือกไฟล์ “InstallESD.dmg” ที่เราเคยได้ก็อปปี้เก็บเอาใว้ จากนั้นกด Restore เท่านี้เราก็จะได้ (Lion) USB Instal Drive เป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
ภาพสวย พื้นหลังสวยมากกกกชอบๆๆๆๆ แต่มันไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องซักเท่าไหร่ (ของเค้าก็ไม่เกี่ยว 55) ตัวอักษรไม่ค่อยน่าอ่านเลยอ่ะ (ของเค้าก็เหมือนกัน55) เนื้อหาเยอะดีนะจิ้
ตอบลบการจัดองค์ประกอบ: จัดเรียงเนื้อโอเึค
ตอบลบเนื้อหาสาระ: มีเนื้อหาพอเหมาะ
การจัดองค์ประกอบศิลป์: ตัวอักษรสีแดง พื้นหลังแดงขาว ร้อนแรงดี โอเค
การจัดองค์ประกอบ: โอเลยจ้าา
ตอบลบเนื้อหาสาระ: เยอะดีจ้ะ :)
การจัดองค์ประกอบ มีภาพประกอบด้วยทำให้เข้าใจเนื้อหามากขึ้น
ตอบลบเนื้อหาสาระ เยอะดีๆจิงๆ
พื้นหลังก็เกี่ยวกับเนื้อหาที่ทำด้วย เยี่ยมๆ
น่าสนใจจัง ทำบล็อคอ่านง่ายดี ^^
ตอบลบการจัดองค์ประกอบ มีภาพประกอบด้วยทำให้เข้าใจเนื้อหามากขึ้น
ตอบลบเนื้อหาสาระเยอะมาก น่าสนใจดี
พื้นหลังมืดมนไปนิดๆ แต่รวมๆก็โอเค
การจัดองค์ประกอบดูแล้วโอเคเลยอะ อ่านง่าย แต่รูปภาพอาจจะเล็กไปนิดนะ
ตอบลบพื้นหลังสวย ดูเข้ากันกับตัวอักษร รวมแล้วมันโอเคเลย :D
รูปภาพเล็กไปหน่อย แต่บอร์ดสวยมาก ผมชอบ
ตอบลบพื้นหลังสวย แต่งน่ารักดี อ่านง่ายด้วย
ตอบลบเนื้อหาเยอะดีมาก การจัดองค์ประกอบก็ดีจ๊ะ แต่พื้นหลังลายตามากเลยอะ แต่ชอบน่ะ แอปเปิ้ล ^_^
ตอบลบพื้นหลังเท่ดี เนื้อหาก็เยอะดีแต่ตัวหนังสือเราชอบสีดำมากกว่าอ่ะ
ตอบลบก็สวยดีนะ BG เรื่ดมาก เนื้อหาดูสวยงาม อ่านง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย 5555
ตอบลบเจ๋งดีนะ :) สวยๆ
ตอบลบ